ตลาด12-01
ตลาด12-02
previous arrow
next arrow

| ABOUT | US

We are always try to do our best to server you of my entire soul like these sweet mornings of spring which enjoy with my whole heart. I am alone, and feel the charm I enjoy with my whole joy with my whole heart. I enjoy with my whole joy with my whole heart. They are very good I am alone, and we feel the charm of the charm.

We are always try to do our best to server you. Possession of my entire soul, like these entire soul like these sweet mornings of spring which enjoy. I enjoy with my whole joy with my whole heart.

images

5773

Projects Completed

5573

Happy Clients

3757

Mail Conversation

3575

Comments Reserved

WHAT WE | DO |

This is caption text details This is caption text details. First bring all she'd brought creature doesn't above from may to fowl creepeth greater night make

Coderspoint has everything you need to get your new website up and running in no time all

Coderspoint has everything you need to get your new website up and running in no time all

Coderspoint has everything you need to get your new website up and running in no time all

Coderspoint has everything you need to get your new website up and running in no time all

Coderspoint has everything you need to get your new website up and running in no time all

Coderspoint has everything you need to get your new website up and running in no time all

Latest | Projects |

This is caption text details This is caption text details. First bring all she'd brought creature doesn't above from may to fowl creepeth greater night make

Are You Impressed With Our Amazing work?

Start Building Your Next Project With CONSAL

CLIENT | TESTIMONIAL |

This is caption text details This is caption text details. First bring all she'd brought creature doesn't above from may to fowl creepeth greater night make

Serenity has taken possession of my entire soul like these sweet mornings of spring which I enjoy of spring which I enjoy with my whole heart.

- Rafael Smith

Serenity has taken possession of my entire soul like these sweet mornings of spring which I enjoy of spring which I enjoy with my whole heart.

- Tom Harry

Serenity has taken possession of my entire soul like these sweet mornings of spring which I enjoy of spring which I enjoy with my whole heart.

- Michael Jackson

Serenity has taken possession of my entire soul like these sweet mornings of spring which I enjoy of spring which I enjoy with my whole heart.

- John Doe

Latest From | Blog |

This is caption text details This is caption text details. First bring all she'd brought creature doesn't above from may to fowl creepeth greater night make

5 เทคนิคการพูด ให้ลูกค้าซื้อ

เชื่อว่าพ่อค้าแม่ขายทุกคน เคยเจอกับปัญหาขายของแล้ว ลูกค้าไม่ซื้อ หรือลูกค้าไม่แวะถาม แวะชมสินค้าเลย ตรงนี้ถือว่าสร้างความหนักใจให้กับพ่อค้าแม่ขายอยู่ไม่น้อย วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ขอเอาใจพ่อค้าแม่ขาย ด้วยการบอกเคล็ดลับ และเทคนิคการพูด ให้ลูกค้าซื้อของ ช่วยเพิ่มยอดขายได้นพริบตาครับ อ่านแล้วนำไปใช้ได้เลยครับ

1.สวัสดีครับ / ค่ะ
วิธีพูดง่ายๆ แต่ได้ผล คำทักทายง่ายๆ อย่าง สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ เป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน แล้วคุณกล่าวคำว่า สวัสดีออกไป จะช่วยลดอาการเกร็งในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญพ่อค้าแม่ขาย สามารถใช้ได้กับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าประจำ หรือลูกค้าใหม่

แล้วอย่าลืมว่าการพูดทักทายต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดุดัน แข็งกระด้างจนเกินไป ให้พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เพื่อแสดงให้เห็นว่าพ่อค้าแม่ขายเป็นคนอารมณ์ดี น่าคบหาสมาคม น่าพูดคุย และผูกมิตรด้วย รับรองว่าคำทักทายสั้นๆ พร้อมน้ำเสียงที่นุ่มนวลนี้ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและสร้างยอดขายให้ร้านของคุณได้แน่ๆ ครับ
2.แชร์ความประทับใจของลูกค้าเก่า
ในการเลือกซื้อสินค้าบางครั้งลูกค้าก็เกิดอาการลังเล หรืออาจกังวลในการตัดสินใจที่จะซื้อ เมื่อเจอกับปัญหานี้ ให้พ่อค้าแม่ขายลองพูดยกตัวอย่างความประทับใจของลูกค้าเดิม ที่เคยซื้อสินค้าของคุณแล้วเกิดความชอบ เช่น “เสื้อตัวนี้ขายดีจริงๆ นะครับ นะคะ ลูกค้าใส่แล้วชอบ เกิดติดใจกลับมาซื้อเพิ่มหลายคนแล้ว เพราะเสื้อตัวนี้ซักแล้วไม่ยืด สีไม่ตก

แถมใส่แล้วดูไม่อ้วนอีกด้วยค่ะ” วิธีนี้คล้ายกับการรีวิวสินค้าที่ใช้กันเป็นประจำในร้านค้าออนไลน์นั่นเอง ที่นำเสียงตอบรับของลูกค้าเก่ามาให้ลูกค้าใหม่ได้รู้ เพื่อสร้างความมั่นใจ และช่วยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ง่ายขึ้น


3.จูงใจให้ซื้อสินค้าชิ้นอื่นด้วย
เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าอื่นๆ ภายในร้านด้วย การพูดเพื่อสร้างยอดขายข้อนี้ เป็นวิธีการพูดเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าอื่นๆ ภายในร้านด้วย เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อของชิ้นแรกไปแล้ว และเกิดอาการลังเลว่า อยากได้ของอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ขอแนะนำให้พ่อค้าแม่ขายเพิ่มกลยุทธ์ในการพูดจูงใจ บวกกับการให้ส่วนลด

เช่น “กางเกงที่ซื้อไปเมื่อกี้เหมาะกับเสื้อตัวนี้นะ ถ้าซื้อเสื้ออีกตัวเดี๋ยวคิดราคาพิเศษให้เลยครับ” หรือจะเป็น “ซื้อสร้อยคอไปแล้ว ดูต่างหูที่เข้าชุดกับสร้อยด้วยไหม ถ้าซื้อคู่กันราคาถูกกว่าซื้อแยกชิ้นเยอะเลยนะคะ” วิธีพูดมีผลต่อการซื้อ-ขายสินค้าเป็นอย่างมาก ดูกรณีร้าน 7-11 พนักงานฝึกให้พูดซื้อสินค้าอื่นๆ ร่วมด้วยเสมอครับ ได้ผลพอสมควร

4.นำเสนอถึงความทันสมัยของสินค้า

เช่น “สินค้าใหม่เพิ่งเข้ามาวันนี้เลยนะคะ นะครับ” “ตัวนี้กำลังฮิตเลยนะ เหมือนกับที่นางเอกเรื่องนั้น เรื่องนี้ ใส่ในละครเลยค่ะ เลยครับ” หรืออาจเป็น ยกบริษัทใหญ่ๆ ก็มาซื้อสินค้าตัวนี้ไปใช้ ตรงนี้ถือเป็นประโยคสุดฮิตที่ได้ยินบ่อยจากพ่อค้าแม่ขาย ใช้ในการกระตุ้นความอยากของลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ประโยคเหล่านี้สร้างยอดขายให้ร้านค้าได้เป็นจำนวนมาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบสินค้าที่มีความทันสมัย

เนื่องจากสินค้าบางประเภทมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ต่างๆ ลูกค้ามีความต้องการจะใช้สินค้าที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นธรรมดา วิธีพูด คำพูดที่กล่าวถึงความทันสมัยเหล่านี้ จึงเป็นตัวกระตุ้นความอยากให้ลูกค้าซื้อของในร้านของคุได้ไม่ยากครับ เท่านี้ก็เป็นการเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณแล้วล่ะ

5.ขอบคุณครับ / ค่ะ

เมื่อปิดการขายได้แล้ว ผมขอให้พ่อค้าแม่ขายจบด้วยประโยคสุดคลาสสิก ที่สร้างความประทับใจได้มากมาย ด้วยคำว่า “ขอบคุณครับ” “ขอบคุณค่ะ” การบริการที่ประทับใจของร้านคุณ พร้อมคำขอบคุณจะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และเกิดความรู้สึกที่อยากจะกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง

ทั้งหมดเป็นวิธีการพูด เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้า และสร้างยอดขายให้กับคุณในระยะยาวนั่นเอง ผมขอแนะนำอีกนิดถ้าพ่อค้าแม่ขายคิดว่าการพูดคำว่า “ขอบคุณ” นั้นสั้นเกินไป ก็ให้ลองต่อท้ายประโยคด้วยการเชิญชวน ตัวอย่างเช่น “ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ ไว้โอกาสหน้าเชิญลูกค้าแวะมาชมสินค้าใหม่ได้นะครับ/ค่ะ” หรือขอบคุณครับ/ค่ะที่มาอุดหนุน

Read More

6 สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ! เมื่อเปิดร้านขายของ

ตลาดค้าปลีกแม้จะถูกท้าทายด้วยตลาดออนไลน์แต่ก็ใช่ว่าร้านค้าออฟไลน์จะสูญพันธ์ไปซะทั้งหมด โอกาสเติบโตของร้านค้าออฟไลน์ยังมีหนทางที่เป็นไปได้ เพราะเสน่ห์ของร้านค้าแนวนี้ยังเป็นที่สนใจของลูกค้าบางส่วน เพียงแต่เราในฐานะเจ้าของร้านต้องรู้ว่าสิ่งไหนควรทำไม่ควรทำเพื่อเพิ่มโอกาสเปิดร้านค้าที่สร้างกำไรได้ดีกว่าเดิม

ซึ่งเราได้รวบรวมเนื้อหานี้มาเป็นแนวทางว่าอะไรควรทำอันไหนไม่ควรทำจะได้มีแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับการลงทุนเปิดร้านค้าออฟไลน์

1.สัญญาค่าเช่า

สิ่งที่ไม่ควรทำ: หลีกเลี่ยงการเซ็นสัญญาระยะยาว ต้องเข้าใจว่าเจ้าของพื้นที่เขาก็อยากได้ความมั่นใจว่ามีคนเช่าแน่ๆ แต่ในฐานะคนขายของและลงทุน แม้เรามั่นใจว่าพื้นที่นี้จะเป็นทำเลทองแต่ปัจจัยเสี่ยงที่จะตามมาก็มีอีกหลายอย่าง สัญญาระยะยาวมักเป็นข้อผูกมัดที่มากเกินไปสำหรับการเปิดร้านค้า

สิ่งที่ควรทำ : รู้จักการคำนวณอย่างละเอียดรอบคอบว่าแนวโน้มของร้านค้าจะสร้างกำไรได้พอกับค่าเช่าแค่ไหน มีปัจจัย หลายอย่างที่ต้องเอามาคิดร่วมกันเช่น ราคาขายสินค้า ราคาค่าเช่า รายจ่ายพนักงาน รายจ่ายภายในร้าน ค่าน้ำค่าไฟ รายจ่ายเบ็ดเตล็ดต่างๆ เป็นต้น

2.ปริมาณลูกค้าในพื้นที่

สิ่งที่ไม่ควรทำ: ห้ามใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินปริมาณลูกค้าเด็ดขาด เราควรจะดูว่าร้านของเราเป็นธุรกิจประเภทไหน ขายสินค้าอะไร มีบริการอะไร ต้องเลือกตั้งร้านในอยู่ในโซนที่เหมาะสมเช่นถ้าเป็นร้านค้าระดับพรีเมี่ยมก็ไม่ควรตั้งอยู่ในทำเลที่มีสินค้าลดราคา หรือถ้าเป็นร้านอาหารก็ต้องดูว่าลูกค้าในพื้นที่มีมากแต่เขาสนใจเมนูไหนเป็นพิเศษห้ามคิดเองว่าเราจะต้องขายดี

สิ่งที่ควรทำ: เพื่อให้ชัดเจนและมีโอกาสรอดในการทำธุรกิจมากขึ้นเราควรวิเคราะห์เก็บสถิติพฤติกรรมผู้บริโภคในพื้นที่ทำเลนั้นๆ มาประเมินว่าเราควรมีสินค้าแบบไหน มีบริการแบบไหน เพื่อจะได้ถูกใจลูกค้ามากที่สุด

3.ลงมือทำงาน

สิ่งที่ไม่ควรทำ: การเปิดร้านค้าเป็นของตัวเองก็หมายถึงว่านั้นคือธุรกิจที่เราต้องดูแล อย่าคิดว่าจะทำเล่นๆ ควรเตรียมพร้อมที่จะลงมือทำงานจริงจัง อย่าคิดว่าเป็นนายตัวเองจะทำเมื่อไหร่ก็ได้จะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าคิดแบบนั้นพังแน่

สิ่งที่ควรทำ: คิดเสมอว่าร้านของเราต้องทำให้ฮิตติดตลาดดังนั้นต้องคิดแบบเจ้าของกิจการคือทำงานหนักในทุกวัน ซึ่งอาจจะมากกว่าตอนเป็นมนุษย์เงินเดือนแต่เราควรที่จะเรียนรู้ทุกขั้นตอนในการทำร้าน สั่งของ ทำบิล ทำการตลาด ทุกอย่างเราต้องรู้ทั้งหมด

4.สร้างความประทับใจให้ลูกค้า

สิ่งที่ไม่ควรทำ: อย่ามั่นใจว่าร้านค้าเราอาจจะอยู่ในทำเลที่ดี อย่ามั่นใจว่าร้านเราสวยงาม ร้านเรามีบริการที่ดี แล้วละเลยการเข้าถึงลูกค้า เช่นไม่มีป้ายบอกทาง ไม่มีการประชาสัมพันธ์ทั้งในออฟไลน์และออนไลน์

สิ่งที่ควรทำ: ต่อให้เรามั่นใจในสินค้าและบริการมากแค่ไหน ก็ต้องสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้ามากขึ้นทั้งการทำใบปลิว ป้ายบอกทาง โฆษณาในโซเชี่ยล รวมถึงการจัดแต่งร้านให้มีบรรยากาศสมกับสินค้าเพื่อให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

5.วิธีบริการลูกค้า

สิ่งที่ควรไม่ทำ: สิ่งชี้วัดความสำเร็จของร้านค้าหากต้องการอยู่รอดในยุคตลาดออนไลน์มาแรง เราต้องแข่งในเรื่องบริการที่ร้านค้าออนไลน์ให้ไม่ได้ อย่ามั่นใจว่าร้านใหญ่ ร้านสวย แล้วคนจะชอบ เราต้องให้บริการที่ดีร่วมด้วยเพื่อให้คนพูดกันปากต่อปาก

สิ่งที่ควรทำ: ฝึกพนักงานถึงวิธีการต้อนรับที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ ฝึกพนักงานให้รับมือกับลูกค้าที่หลากหลายอารมณ์ มีวิธีการรับมือลูกค้าแบบมืออาชีพที่ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกเสียความรู้สึก

6.การกำหนดราคาสินค้า

สิ่งที่ไม่ควรทำ: อย่าตั้งราคาสินค้าสูงเว่อร์ หรือต่ำเกินไป อย่ามั่นใจว่าราคาต่ำกว่าแล้วคนจะซื้อหรือพอตั้งราคาสูงไปจะทำให้คนรู้สึกว่าสินค้าเรามีคุณภาพดี

สิ่งที่ควรทำ: ค้นหาราคาโดยเฉลี่ยของสินค้าในลักษณะเดียวกันทั้งในทำเลใกล้เคียงและในโลกออนไลน์ ดูว่าราคาประมาณไหนที่เขากำหนดเพื่อให้เป็นราคากลางที่ใกล้เคียงทำให้คนรู้สึกว่าเราเป็นสินค้าที่น่าสนใจในโลกของความจริง

โอกาสของร้านค้าออฟไลน์ยังมีอยู่มาก แต่ปัญหาคือในฐานะผู้ลงทุนจะทำอย่างไรให้ร้านค้าที่เปิดนี้เป็นที่ต้องการของลูกค้า การผสมผสานเทคนิคการตลาดยุคเก่าและใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนั้นต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการที่ดีมากพอด้วย

Read More

10 ขั้นตอนสู่การเป็นเจ้าของตลาดนัด

การลงทุนทำตลาดนัดนั้นมีทั้งหมด 2 แบบ คือ การลงทุนบนที่ดินเปล่าของตัวเอง หรือดำเนินการบนที่ดินของคนอื่น ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันตลาดนัดมีเกิดใหม่จำนวนมากที่อยู่รอดก็เยอะที่เจ๊งไม่เป็นท่าก็มีไม่น้อยบางที่ติดป้ายเตรียมเปิดตลาดแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เปิดสักที

เรามองว่าการลงทุนทำตลาดนัดแม้จะเป็นการลงทุนที่ดีแต่คนที่คิดจะลงทุนในธุรกิจนี้ก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักการเบื้องต้นดีพอสมควรเลยทีเดียว

1.สำรวจตัวเองว่ามีเงินทุนเพียงพอ
ก่อนจะทำธุรกิจก็ต้องคิดก่อนว่าตัวเองมีเงินทุนแค่ไหน ไม่ใช่แค่เงินที่จะลงทุนแต่ต้องรวมถึงเงินสดหมุนเวียนที่ต้องมีใช้ให้เกิดสภาพคล่องในระหว่างก่อร่างสร้างตัว เพราะทุกธุรกิจช่วงแรกรายจ่ายจะมากกว่ารายรับ
หากสายป่านตรงนี้ยังไม่มีโอกาสเกิดก็ยาก โดยเฉพาะการทำตลาดยุคนี้ที่ไม่ใช่แค่การหาพื้นที่แล้วปล่อยให้พ่อค้าแม่ค้ามาขายกันสะเปะสะปะ ตลาดยุคนี้ต้องมีการบริหารจัดการ การปรับปรุงพื้นที่ การก่อสร้างในสิ่งที่สำคัญและจำเป็น เบ็ดเสร็จเงินลงทุนขั้นต่ำไม่รวมค่าเช่าพื้นที่ควรมีไม่น้อยกว่า 500,000 บาท

2.มีเงินก็ต้องมีทำเล
ถ้าแน่ใจว่ามีเงินเพียงพอซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีหาหุ้นส่วนในการลงทุนขั้นต่อไปคือการหาทำเลหากเรามีที่ดินของตัวเองอยู่แล้วก็ง่ายหน่อยแต่ถ้าไม่มีก็ต้องมองหาที่ดินเปล่าที่เจ้าของปล่อยให้เช่า
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทำเลดีๆในกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดมักจะมีนายทุนเป็นผู้ถือครองที่ดินเหล่านั้นอยู่ การเช่าพื้นที่มาทำตลาดส่วนใหญ่จึงค่อนข้างมีอัตราที่สูง หรือหากเราใช้เทคนิคที่จะดึงให้เจ้าของที่ดินมาเป็นหุ้นส่วนร่วมกันในการทำตลาดก็อาจจะทำให้ต้นทุนส่วนนี้ลดน้อยลงได้ด้วย

3.ร่างสัญญาและบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน
ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาพูดคุยที่เรื่องสัญญามีความสำคัญมากไม่ว่าเจ้าของที่ดินจะเป็นหุ้นส่วนกับเราหรือไม่ก็ตาม เราควรจะมีการร่างสัญญาที่ชัดเจนว่าใครจะมีรายได้จากตรงไหน เท่าไหร่ ระยะเวลาเป็นอย่างไร อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ งานนี้ต้องพึ่งนักกฎหมายเข้ามาร่างสัญญาให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในกรณีบางทีตลาดเกิดบูมคนติดมากกำไรเยอะเจ้าของที่ดินจะเล่นแง่ด้วยการยกเลิกสัญญาเพื่อมาบริหารเอง เป็นต้น

4.วางแบบแปลนตลาดให้ชัดเจน
ที่ดินสำหรับการทำตลาดควรมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 ไร่ที่สำคัญต้องจัดสรรพื้นที่สำหรับเป็นลาดจอดรถของพ่อค้าแม่ค้าและส่วนของลูกค้าแยกให้ชัดเจน ตลาดไหนที่ไม่มีที่จอดรถ เตรียมเจ๊งตั้งแต่เริ่มได้เลย การวางแปลนตลาดควรกำหนดปริมารแผงว่าต้องมีเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ไม่น้อยเกินไป ไม่แออัดเกินไป และควรแยกโซนให้ชัดเช่น ขายผัก ขายเนื้อสัตว์ ขายอาหารสำเร็จรูป อย่าลืมช่องทางเดิน ห้องน้ำ และอาคารอำนวยการด้วย

5.ขออนุญาติในการเปิดตลาดกับเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย
ถ้าเรามีแบบแปลนในการก่อสร้าง มีเงินทุน มีรายละเอียดที่ชัดเจนก่อนจะลงมือก่อสร้างก็ควรจะขออนุญาตกับทางเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อยส่วนใหญ่มักจะต้องไปติดต่อที่สำนักงานเขตในพื้นที่นั้นๆ โดยจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลในการออกใบอนุญาติต่างๆ
ซึ่งหลักฐานที่ต้องนำมาใช้เพื่อขออนุญาตในการจัดตั้งตลาดคือ สำเนาบัตรประชาชนผู้ขออนุญาต สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต ทะเบียนบ้านของสถานที่ที่จะใช้ประกอบการ สัญญาเช่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง พร้อมหลักฐานของผู้ให้เช่า สำเนาใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารที่แสดงว่าเป็นอาคารที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่หน่วยงานราชการจะใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานและตรวจสอบพื้นที่ว่าถูกต้องตามมาตรฐานและได้สุขลักษณะที่กำหนดไว้หรือไม่ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 วัน

6.กำหนดธีมของตลาดว่าเป็นอย่างไร
การจะเป็นตลาดที่คนฮิตและสนใจเจ้าของตลาดต้องสำรวจชีวิตประจำวันของคนในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร มีโรงงาน มีการเลิกงานช่วงไหน เคล็ดลับคือต้องกำหนดเวลาในการเปิดปิดตลาดให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและต้องยึดถือเป็นเวลานั้นอย่างสม่ำเสมอ เช่นวันศุกร์-อาทิตย์ ช่วงเย็น ,วันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. หรือจะเปิดตลอด 7 วัน ก็ต้องแน่ใจว่าพ่อค้าแม่ค้าจะไม่มีปัญหาในการเอาสินค้ามาลงขายในตลาดด้วย

7.กำหนดค่าเช่าล็อคอย่าแพงเกินไป
เป็นทริคของนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ในระยะแรกบางตลาดเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขายฟรีเพื่อเรียกให้คนสนใจ แต่ปัญหาก็คือเมื่อระยะเวลาผ่านไปหากจะปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบคิดราคา พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนหายทันที เรื่องนี้สำคัญมาก การพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าให้เข้าใจตั้งแต่ครั้งแรกว่าจะปล่อยขายฟรีกี่เดือน หลังจากนั้นคิดค่าเช่าเท่าไหร่ แนะนำว่าไม่ควรแพงให้พ่อค้าแม่ค้าได้รู้สึกว่าพอมีกำไรจากการขายอยู่บ้าง

8.อย่าลืมเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย
ตลาดนัดเดี๋ยวนี้สังเกตให้ดีจะมีเจ้าหน้าที่คอยโบกรถให้ความสะดวกในการจราจร ในลานจอดรถบางตลาดก็มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำว่าให้จอดตรงไหน รวมถึงบางที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด จะเป็นการเพิ่มความอุ่นใจให้กับลูกค้าที่มาเดินตลาดสามารถช็อปปิ้งได้อย่างสบายใจมากขึ้น แม้เราจะต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นบ้างก็ตาม

9.การโปรโมทตลาดเป็นสิ่งจำเป็น
งบส่วนหนึ่งของการทำตลาดเราต้องจัดสรรมาให้กับการโปรโมทให้ตลาดเป็นที่รู้จัก การประชาสัมพันธ์พื้นฐานเช่นแผ่นพับ ใบปลิว ป้ายโฆษณา หรือแม้แต่การวิ่งรถประชาสัมพันธ์จะทำให้คนรู้จักตลาดเรามากขึ้น หรือหากจะให้ดีควรมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงดูดคนให้สนใจตลาดเช่นการจัดคอนเสิร์ต หรือการจัดแข่งขันทำอาหาร หรือมีการจัดกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆ ก็จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ตลาดเรามากขึ้น

10.ตลาดฮิตคนติดต้องขยาย
เรียกว่าเป็นการเติบโตของธุรกิจบางตลาดเริ่มต้นด้วยพื้นที่แค่ 1-2 ไร่แต่หากผ่านไปสักพักตลาดเริ่มเป็นที่รู้จักคนเริ่มมาตลาดมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าเริ่มมากขึ้น ในฐานะเจ้าของตลาดควรมองเรื่องการต่อขยายตลาดให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วยดังนั้นการหาพื้นที่สำหรับทำตลาดต้องมองถึงอนาคตไว้ด้วย

การลงทุนทำตลาดใช้เงินทุนค่อนข้างสูงเหนือสิ่งอื่นใดเราต้องสำรวจพื้นที่โดยรอบก่อนว่าหากเปิดพื้นที่ทำตลาดแล้วจะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่แล้วตลาดที่เปิดใหม่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในพื้นที่ได้ดีแค่ไหนด้วย -

Read More

Our | Partners |

This is caption text details This is caption text details. First bring all she'd brought creature doesn't above from may to fowl creepeth greater night make